1970 ―

ระหว่างที่พัฒนาทางการแพทย์ ได้ค้นพบว่ามีผู้คนจำนวนมาก ที่ต้องเจอกับปัญหาโรคผิวหนังที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดสี ทำให้เราได้เริ่มค้นคว้าและวิจัยเพื่อที่ขจัดสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ออกไปจากผลิตภัณฑ์

1972 ―

เราได้มีการเริ่มวิจัยร่วมกับทีมแพทย์ผิวหนังซึ่งนำทีมโดย ดร.ฮิเดโอะ นากายะมะ จากโรงพยาบาลกลางไซเซไกและทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เกี่ยวกับเรื่อง "น้ำหอมและอาการแพ้" จึงได้พัฒนาเทคโนโลยี "ACC" (Allergen Controlled Cosmetics) ขึ้นมา โดยที่ได้ขจัดสารที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ออกไป หลังผ่านการทดลองได้ทำให้เราพบว่าเทคโนโลยี ACC สามารถทำหน้าที่เป็นตัวช่วยรักษาโรคผิวหนังในเครื่องสำอางได้

1973 ―

ดร. ฮิเดะโอะ นากายะมะ เสนอทฤษฎี A.C.S (Allergen Control System) ระบบควบคุมการก่อภูมิแพ้ที่ได้รับการศึกษาวิจัยโดยแพทย์ผิวหนังและก่อตั้งสมาคมวิจัย A.C.S เพื่อทำการวิจัย โดยมีบริษัทเข้าร่วมทั้งหมด 9 บริษัท รวมถึง ACSEINE (Corp.) เพื่อจัดตั้ง ACS Research Society ความสำเร็จในการค้นพบก่อเกิดเป็นนวัตกรรมของผลิตภัณฑ์ ACSEINE 

1974 ―

ดร. ฮิเดะโอ นากายะมะ ได้นำเสนอในงานประชุมประจำปีครั้งที่ 73 ของสมาคมโรคผิวหนังแห่งประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับ "โรคภูมิแพ้น้ำหอมและโรคผิวหนังจากเครื่องสำอาง" เขาได้ออกแบบเทคโนโลยี A.C.S (Allergen Control System) เพื่อหาสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้จากกลุ่มน้ำหอมหลายร้อยชนิดและส่วนผสมอื่น ๆ ที่ใช้ในเครื่องสำอางและสบู่แล้วนำออกจากสภาพแวดล้อมของผู้ที่ป่วยเป็นโรคผิวหนังจากเครื่องสำอาง เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำของโรคผิวหนังขึ้น

1975 ―

กระทรวงสาธารณสุข อนุญาตให้เนื้อหาของรายการส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ที่จำเป็นต้องติดฉลาก ด้วยกฎหมายเวชภัณฑ์ทำให้การติดฉลากนี้กลายเป็นข้อบังคับ

1977 ―

ในขณะที่เครื่องสำอางที่ได้พัฒนาขึ้นจากเทคโนโลยี "A.C.S (Allergen Control System)"  ก็เริ่มมีการทดสอบเกิดขึ้นในสถานที่ต่าง ๆ เช่น แผนกผิวหนังวิทยามหาวิทยาลัยนาโกย่า คณะแพทยศาสตร์ ภาควิชาโรคผิวหนังของมหาวิทยาลัยแพทย์คันไซ และโรงพยาบาลโอซาก้าไคเซย์ (Kaisei Hospital Department of Dermatology) ในปีนี้ A.C.S Consulting Center ได้ก่อตั้งขึ้นและให้คำปรึกษาจากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญ

1979 ―

เริ่มจำหน่ายเครื่องสำอางภายใต้แบรนด์ "Clinica"

1984 ―

จัดตั้ง ACSEINE Corporation โดยใช้ชื่อของนวัตกรรม A.C.S (Allergen Control System) จากตัวอักษร 3 ตัวแรก และเปลี่ยนชื่อแบรนด์เป็นแอคซีน "ACSEINE" และเริ่มจำหน่ายสินค้าชุดสกินแคร์

1991 ―

พัฒนาเทคโนโลยีแรกของโลกแคปซูลขนาดเล็ก (Microcapsule) ที่ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้

1993 ―

เริ่มนำผลิตภัณฑ์เนื้อเจลที่ปราศจากน้ำมันและปราศจากสารลดแรงตึงผิวเข้ามาวางจำหน่าย

1995 ―

อ้างอิงจากดูแลรักษาอาการโรคภูมิแพ้ผิวหนัง จึงพบว่า การปรับสภาพผิว = ความอ่อนโยน + ความชุ่มชื้น จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ชุด AD Control Series เพื่อผิวแข็งแรง ไม่ระคายเคือง

1996 ―

เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ Basic Skin Care (AL) Series เพื่อปรับปรุงการทำงานของผิวหน้า สร้างเกราะป้องกันของชั้น Corneum และนำเทคโนโลยี Mild Sunshield ซึ่งเป็นการกันป้องกันแสงแดดที่ไม่ดูดซับรังสียูวีพร้อมกับเป็นเมคอัพเบส อีกทั้งยังผลิต MC Foundation ขึ้นใหม่โดยมีชื่อว่า FC (Fine Coat) Foundation

1998 ―

เริ่มเปิดให้บริการปรึกษาทางโทรศัพท์สำหรับลูกค้า ACSEINE ด้านความงามโดยมีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการรับรองจากเภสัชกร ให้คำแนะนำและได้ผลิตชุด Sebum Clean Up สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว

1999 ―

จากข้อเท็จจริงที่พบว่ารังสียูวีนั้นก่อให้เกิดสิวขึ้นได้ เราจึงได้คิดค้นเทคโนโลยี UV Protection ที่ไม่ดูดซับรังสียูวีและลดการเกิดสิวในผู้ใหญ่ได้ ก่อนที่จะมีข้อกำหนดในเรื่องการแก้ไขกฎหมายด้านเภสัชกรรมใน ปีพ.ศ. 2544 ที่ต้องมีการระบุส่วนผสมทั้งหมดลงได้ และเริ่มติดฉลาดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา

2000 ―

ได้มีการพัฒนา "Release Emulsion" เทคโนโลยีที่มีส่วนผสมของฟอสเฟอร์โพลิป กรรมสิทธิ์เฉพาะของ ACSEINE อีกทั้งยังเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ "White Emulsion" ซึ่งสามารถลดอาการของผิวแพ้ง่าย 

2001 ―

ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ใช้ฟิล์มซิลิกาบางเป็นครั้งแรกของโลก ที่ไม่เพียงแต่จะเคลือบสีในครีมรองพื้นได้เท่านั้น แต่ยังสามารถเคลือบสีทาร์(เบส)ที่มีในเครื่องสำอางประเภทอื่น จึงเกิดชุดผลิตภัณฑ์แต่งหน้า ACSEINE Makeup PV (Perfect Veil) นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ Moistbalance เจล ที่ช่วยเรื่องเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว ที่มีส่วนผสมของน้ำถึง 80%

2002 ―

จำหน่ายผลิตภัณฑ์ Reset Wash โฟมล้างหน้า ที่ทำหน้าที่เพิ่มเกราะป้องกันผิวอีกชั้นและยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ White Emulsion Cellup Gel เจลที่ช่วยปรับสภาพผิว หลังจากเกิดการอักเสบ

2003 ―

เปิดตัวผลิตภัณฑ์ White Emulsion Cellup Eye สำหรับ รอยคล้ำบริเวณรอบดวงตา ช่วยลดการระคายเคือง

2004 ―

เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Super Sunshield ครีมกันแดดเนื้อเบส ที่ปราศสารเคมี และไม่ดูดซับรังสีอัลตราไวโอเลต มี "SPF50 PA++++ ที่ป้องกันผิวจากการระคายเคืองที่เกิดจากรังสียูวี

2005 ―

เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Sebum AC Moist ที่ช่วยแก้ปัญหาสิวในวัยผู้ใหญ่ ที่เกิดจากการระคายเคืองและความแห้งกร้าน และยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Mild Sunshield ผลิตภัณฑ์ที่ขายเป็นระยะเวลายาวนาน และได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง จากแพทย์ผิวหนังที่ปรับปรุงสูตรใหม่ โดยมีการป้องกันรังสียูวีและเพิ่มความชุ่มชื่นมากขึ้น

2006 ―

เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Sebum Clean Water AC Moist Mask ซึ่งได้รับการยืนยันจากสถาบันทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาสิว

2007 ―

พัฒนา "Emulsion Multi-layer Release" เทคโนโลยีขั้นสูงของ "Release Emulsion" เมื่อเกิดความชุ่มชื้น จะทำให้ส่วนผสมที่เป็นไวท์เทนนิ่งไปยังบริเวณที่ต้องการ เพิ่มประสิทธิภาพเรื่องความกระจ่างใส นอกจากนี้ ACSEINE ยังได้เปิดตัวชุดผลิตภัณฑ์ New White Emulsion โดยใช้เทคโนโลยีนี้ด้วย

2008 ―

พัฒนาสูตรที่มีคุณสมบัติในเข้าถึงชั้นเซลล์ผิวกรรมสิทธิ์เฉพาะ ACSEINE และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Cell Moisture Water เป็นโลชั่นสูตรใหม่ ที่เปลี่ยนโครงสร้างผิวที่แห้งกร้านซ้ำ ๆ ให้กลับมาดีขึ้น

2010 ―

เน้นไปที่สาเหตุที่ทำให้ผิวแห้ง จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Silky Moisture Foundation และผลิตภัณฑ์ All Day Clear Bright Base ที่ใช้เทคโนโลยี "MC Chitosan Veil" เป็นเทคโนโลยีซึ่งช่วยเพิ่มการดูดซึมของส่วนผสมในการดูแลผิว และช่วยให้ผิวด้านในชั้น Corneum มีความกระชับ ขณะเตรียมผิวสำหรับการแต่งหน้า

2011 ―

สารระคายเคืองและสิ่งต่าง ๆ ที่ก่อให้ผิวเกิดความตึงเครียด นั้นมาจากผิวของคนเราในปัจจุบันที่ค่อย ๆ ลดความยืดหยุ่น และความกระชับลงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวดูแก่ก่อนวัย จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Future Cycle Creamy Serum ที่มีเทคโนโลยี "Biodelivery Technology" ทำให้ผิวดูดซึมส่วนผสมที่สำคัญโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง สามารถใช้ได้ในทุกวัน

2012 ―

ผู้หญิง 1 ใน 2 ต้องการการปกป้องจากรังสี UV ด้วยผลิตภัณฑ์ SPF50 ทุกวัน แต่มักจะลังเลที่จะใช้ Super Sunshield EX<SPF50+><PA+++> จากเทคโนโลยีป้องกันรังสี UV ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช้สารเคมี และรู้สึกสบายผิว ในปีพ.ศ.2556 ดัชนีของการป้องกันรังสี UV-A เปลี่ยนจาก <PA+++>เป็น <PA++++> ทำให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV สูงสุด สำหรับคนผิวแห้ง ทาง ACSEINE ได้เปิดตัว Moistbalance R รุ่นปรับปรุงใหม่ของ Moistbalance สำหรับผิวที่มีแนวโน้ทจะขาดความชุ่มชื้นและเสริมสร้างความแข็งแรงของผิวด้วยเซราไมด์ (Ceramide)

2013 ―

ด้วยเทคโนโลยี PV (Perfect Veil) ซึ่งช่วยให้สีไม่สัมผัสผิวโดยตรง และเทคโนโลยี "Airy Fit Color Keep" และได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ New Face Color ที่ประกอบไปด้วยผลิตภัณฑ์ 4 อย่างเช่น อายแชโดว์ สีเขียนคิ้ว บลัชออน และไฮไลท์ ที่มีน้ำหนักเบา สีสดใสไม่ทำให้หน้าหมองคล้ำ และยังได้ผลิตลิปกลอส ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก มีประกายแวววาว ดูอวบอิ่มและเปล่งปลั่ง ไม่ทำให้ริมฝีปากแตก

2016 ―

ด้วยสภาพแวดล้อมในสมัยนี้ ทำให้ผิวเสีย ได้จากปัจจัยภายนอกและภายใน มีผู้หญิงจำนวนมาก ที่ประสบปัญหาเรื่องผิวที่มีความแห้งกร้าน และมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นผิวแพ้ง่าย ACSEINE จึงได้ออกผลิตภัณฑ์ Moistbalance Lotion โลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นตัวใหม่ ที่ไม่ได้ให้แค่เรื่องความชุ่มชื้นเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของผิวที่สุขภาพดี ที่จะช่วยลดปัญหาความกังวลเรื่องผิวแห้งกร้านของผู้หญิงยุคสมัยใหม่

2017 ―

สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีต่อผิวนั้น มีแนวโน้มที่ไม่ดีขึ้นทุก ๆ ปี และความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวกลายเป็นผิวบอบบางนั้นก็เพิ่มสูงขึ้น และผิวไวต่อรังสียูวีด้วยเช่นกัน ทางเราพบว่าผู้หญิงสมัยใหม่นี้ประสบปัญหาและมีความกังวลเกี่ยวกับ ความแห้งกร้าน ผิวหมองคล้ำ และปัญหาผิวอื่น ๆ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Supershield Bright Veil ที่เป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติในการปรับสภาพผิว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้หญิงที่มีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาผิว

 

 

2018 ―

บริเวณที่เผยผิวอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็น บริเวณคอ จะเป็นบริเวณที่บอบบางและระคายเคืองได้ง่าย หรือแขนของเราที่จะแห้งกร้านได้ง่ายนั้น เป็นจุดที่เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายจากรังสียูวี และสามารถป้องกันได้โดย Super Sunshield Bright Fit ครีมกันแดดสำหรับผิวหน้าและผิวกายที่มีประสิทธิภาพ
ใช้ในการป้องกันรังสียูวี (SPF50+) และอ่อนโยนต่อผิวทำให้ผิวดูสวย กระชับขึ้นในทุก ๆ วัน