Blog
มีหลายคนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับความแตกต่างของปัญหา “ผิวแห้ง” และ “ผิวขาดน้ำ” เพราะเหมารวมคิดว่าทั้งสองอย่างคือสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความแตกต่างกันค่ะ
“ผิวแห้ง” (Dry skin) คือ สภาพผิวที่ “ขาดความมัน” อาจมีสาเหตุมาจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยกว่าปกติ จึงทำให้ผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้นาน สิ่งระคายเคืองลอดผ่านผิวได้ง่าย ส่งผลให้ผิวมีอาการแห้งตึงหรือคัน ไปจนกระทั่งแห้งกร้านและลอกเป็นขุย ผิวจะอยู่ในสภาพที่บอบบาง แพ้ง่ายและแห้งอยู่เสมอโดยไร้ซึ่งความมันหรือความชุ่มชื้น ส่วนมากผิวแห้งจะเป็นสภาพผิวที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด หรือเป็นปัญหาที่เกิดตามอายุและโรคผิวหนังบางประเภท
“ผิวขาดน้ำ” (Dehydrated skin) คือ ภาวะปัญหาผิวที่ขาดความชุ่มชื้นหรือขาดน้ำใต้ผิวอย่างเพียงพอ สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกๆสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวผสม หรือแม้กระทั่งผิวมัน ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย อาทิ สภาพอากาศ มลภาวะภายนอก รวมไปถึงการรับประทานอาหารเป็นต้น
อาการผิวขาดน้ำนั้น หากเรามองแบบผิวเผินอาจดูไม่ค่อยต่างจากผิวแห้งสักเท่าไหร่ โดยสิ่งที่ผิวขาดน้ำแตกต่างจากผิวแห้งอย่างชัดเจนก็คือ มีสภาพผิวที่ทั้งแห้งและมันในเวลาเดียวกันนั่นเองค่ะ ถ้าลองสังเกตดีๆ ผิวขาดน้ำจะมีสภาพที่อ่อนล้า ดูหมองคล้ำไม่สดใส เห็นริ้วรอยได้ชัดเจนเนื่องจากผิวสูญเสียคอลลาเจน ลูบแล้วรู้สากผิวไม่นุ่มมือ และอาจทำให้มีการผลิตน้ำมันบนผิวมากเกินไปเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ผิวสูญเสียการทำงาน จึงทำให้ผู้ประสบปัญหาผิวแห้งและผิวขาดน้ำนี้มีแนวโน้มกลายเป็นผิวที่ Sensitive หากไม่มีการดูแลที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ
วิธีการรับมือกับปัญหาผิวแห้งและขาดน้ำ
เราต้องเข้าใจถึงอาการหลักที่เหมือนกันของทั้งสองปัญหาผิวนี้ก่อน นั่นคือ ผิวขาดความชุ่มชื้น อันดับแรก จึงจำเป็นต้องต้องเร่งฟื้นฟูบำรุงและเติมน้ำให้แก่ผิวอยู่เสมอด้วยผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ยาวนาน โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองรบกวนชั้นผิวที่บอบบางจากการขาดทั้งน้ำมันและความชุ่มชื้น พร้อมเสริมปราการผิวที่ทำหน้าที่เสมือนซีเมนต์อุดรูช่องว่างผิวจากสิ่งระคายเคืองภายนอก อย่างกลุ่มผลิตภัณฑ์ ACSEINE Moistbalance ด้วย 2 Steps ผิวสวยฉ่ำน้ำง่ายๆ
Step ที่ 1 : คืนความชุ่มชื้นให้แก่ผิวที่แห้งตึงหลังล้างหน้าด้วย ACSEINE Moistbalance Lotion
โลชั่นน้ำตบที่บรรจุเซราไมด์นาโนและสารให้ความชุ่มชื้นขนาดเล็กกว่าช่องว่างในชั้นผิว จึงทำให้สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว เติมน้ำให้แก่เซลล์ผิวให้ดูเอิบอิ่ม นุ่มฟู ริ้วรอยตื้นจากความแห้งดูลดลง เพิ่มความชุ่มชื้นได้มากขึ้นถึง 160 % และคงระดับได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง โดยไม่ทำให้ผิวระคายเคืองเพราะปราศจากน้ำหอม น้ำมัน สารปรอท แอลกอฮอล์ และสารตึงผิว
Step ที่ 2 : กักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วย ACSEINE Moistbalance Gel
เจลเซราไมด์ ละลายบนผิว ไม่ทิ้งความมัน มีเพียงผิวฉ่ำน้ำ ด้วย Gel to Liquid Technology ที่ทำให้เนื้อเจลนุ่มๆ ละลายเป็นน้ำได้ในทันทีเมื่อทาลงบนผิว ซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างเซราไมด์ในผิวตามธรรมชาติที่ทำหน้าที่กักเก็บและป้องกันการสูญเสียน้ำ ช่วยให้ปริมาณความชุ่มชื้นในผิวเพิ่มขึ้น 3.5 เท่า (หลังใช้ 2 สัปดาห์) ด้วยการสร้าง Water-shield (น้ำเคลือบผิว) ไว้ด้านบน และค่อยๆ ส่งผ่านความชุ่มชื้นแก่ผิวอย่าง “ต่อเนื่อง” ในปริมาณ “เหมาะสม” ของผิวแต่ละคนตลอดทั้งวัน\
ปัญหาผิวแห้งและผิวขาดน้ำ คือ ปัญหาผิวที่เราจะต้องคอยดูแล และเอาใจใส่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เริ่มตั้งแต่วันนี้ หมั่นบำรุงผิวพรรณอย่างอ่อนโยนด้วย 2 Steps จาก ACSEINE Moistbalance เป็นประจำ ควบคู่กันไปกับการดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อผิวนุ่ม ดูสดใสชุ่มฉ่ำ จบทุกปัญหาผิวแห้งผิวขาดน้ำ กลับสู่ชีวิตประจำวันที่ปราศจากปัญหาผิวบอบบาง แห้งกร้าน ' สู่ประตูบานใหม่ของผิวสุขภาพดีโดย ACSEINE '
หากคุณมีข้อสงสัยในปัญหาผิวแห้งและผิวขาดน้ำ สามารถปรึกษาปัญหาผิวของคุณได้ที่
คลิก.. ACSEINE COUNSELING หรือ LINE @acseinethailand
RELATED BLOG
Shop List
CentralPlaza Lardprao
Beauty Hall 1st Fl. (โซนเครื่องสำอาง) ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวเลขที่ 1691 ถนนพหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900